วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2559
บรรยากาศในห้องเรียน
ในวันนี้อาจารย์เข้าสอนช้ากว่าทุกวัน เพราะต้องไปเปิดงานวิาการ แต่นักศึกษามาเข้าเรียนตรงเวลา และนั่งรออาจาร์ยกันอย่างเรียบร้อย หลังจากที่อาจารย์เข้ามาสอนก็เริ่มพูดคุยกันถึงบทเรียนที่จะเรียน
ความรู้ที่ได้รับในวันนี้
ในวันนี้ครูให้ทำกิจกรรม ซึ่งอาจารย์ให้เตรียมไม้เสียบลูกชิ้น ที่ตัดทั้งหมด 3 ขนาดคือ 1ส่วน 2 ส่วน แะ 3 ส่วน จากอาทิตย์ที่แล้วมาด้วย โดยอาจารย์ได้แจกถุงดินน้ำมันหลากสี แล้วให้พวกเราเลือกหยิบกันคนละสีเท่านั้น พร้อมทำตามที่อาจารย์สั่งดังนี้
- ในครั้งแรกอาจารย์ให้ทำรูป 3 เหลี่ยม โดยนำไม้ขนาดที่เท่ากันมาเชื่อมด้วยดินน้ำมันที่เราได้เลือกไว้ และครั้งต่อมา ครูให้ทำเป็นรูป ทรง 3 เหลี่ยม ซึ่งต้องมีมิตินั้นเอง โดยเริ่มจากฐานเดิมที่สร้างไว้หรือว่าจะสร้างใหม่ก็ได้ ดังภาพ
ต่อไปอาจารย์ให้ทำรูป 4 เหลี่ยม โดยนำไม้ที่ตัด มาต่อ ขนาดเท่าไหร่ก็ได้ตามใจชอบ
ครั้งที่สองอาจารย์ให้ทำเป็นรูปทรง 4 เหลี่ยม โดยทำต่อจากฐานเดิมหรือเปลี่ยนใหม่ก็ได้ ดังภาพ
สรุปเนื้อหาต่างๆที่เพื่อนนำเสนอ
สรุปงานวิจัย
เรื่อง การส่งเสริมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยโดยการจัดประสบการณ์กิจกรรมดนตรี ตามแนวออร์ฟ-ชูคเวิร์ค
ผู้จัดทำ วรินธร สิริเดชะ (2550) เสนอต่อบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒผู้ควบคุม
ผู้ช่วยศาตราจารย์ จิราภรณ์ บุญส่ง , อาจารย์ ดร. สุจินดา ขจรรุ่งศิลป์
กลุ่มตัวอย่าง ที่ใช้ในการทดลองเป็นเด็กปฐมวัยชาย-หญิง อายุ 4-5 ปี จำนวน 30 คน ที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นอนุบาล 2 ปีการศึกษา 2549 ภาคเรียนที่ 2 โรงเรียนศรีดรุณ จังหวัดสมุทรปราการ โดยใช้ระยะเวลาทดลอง เป็นเวลา 8 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 3 วัน วันละ 40 นาที
เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง คือ1 แผนการจัดประสบการณ์ดนตรีตามแนวออร์ฟชูคเวิร์คและแบบทดสอบวัดทักษะพื้นฐานทางด้านคณิตศาสตร์2 คูมือการจัดประสบการณดนตรีตามแนวออรฟชูคเวิรค การจัดประสบการณดนตรีตามแนวออรฟชูคเวิรค ผูวิจัยเปนผูดําเนินการจัดกิจกรรม โดยจัดกิจกรรมดนตรีตามแนวออรฟชูคเวิรค ใหกับเด็กสัปดาหละ 3 วัน คือในวันจันทร พฤหัสบดี ศุกร ระหวาง เวลา 9.10 – 9.50 น. เปนเวลาทั้งสิ้น 8 สัปดาห รวม 24 กิจกรรม โดยมีจุดมุงหมายเพื่อสงเสริมทักษะ พื้นฐานทางคณิตศาสตร ดังนี้
1. การจัดหมวดหมู
2. การรูคาจํานวน 1 - 10
3. การเปรียบเทียบในเรื่องตอไปนี้ - จํานวน ไดแก มาก – นอย เทากัน - ไมเทากัน - ปริมาณ ไดแก มาก – นอย หนัก – เบา - ขนาด ไดแก เล็ก กลาง ใหญ สูง – ต่ำ สั้น – ยาว - รูปทรงเรขาคณิต ไดแก วงกลม สี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม
4. อนุกรม ลักษณะของกิจกรรมเปนกิจกรรมดนตรีที่เด็กไดลงปฏิบัติ โดยผสานกิจกรรมตางๆเขาดวยกันอยางผสมกลมกลืน ไดแก - คําพูด ( Speech)
- การรองเพลง (Singing)
- ลีลาและการเคลื่อนไหว (Movement)
- การใชรางกายทําจังหวะ (The Use of Body in Percussion)
- การคิดแตงทํานองหรือทาทางแบบทันทีทันใด (Improvisation)
ซึ่งการจัดประสบการณดนตรีตามแนวออรฟชูคเวิรค สามารถบูรณาการสาระการเรียนรูในดาน ตางๆผสมผสานเขาไปในกิจกรรมทั้ง 5 ดังกลาว การวิจัยครั้งนี้ตองการศึกษาความสัมพันธของการจัด ประสบการณดนตรีตามแนวออรฟชูคเวิรค สัมพันธกับทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร ในการวาง แผนการจัดกิจกรรมแตละครั้งจึงตองมีการบูรณาการเนื้อหาสาระทางดานคณิตศาสตรกับกิจกรรมดนตรีเพื่อสงเสริมทักษะพื้นฐานคณิตศาสตรอยางสัมพันธกัน เพื่อใหการจัดกิจกรรมดังกลาว บรรลุตามวัตถุประสงค ผูดําเนินการควรมีพื้นฐานความเขาใจ ในเรื่องพัฒนาการเด็ก จิตวิทยาพัฒนาการ ดนตรี ควรเปนผูที่มีความละเอียด รอบคอบ ชางสังเกต ใจ กวางที่จะใหโอกาสเด็กไดแสดงความคิดเห็น แสดงความสามารถ ตลอดจนมีความเชื่อมั่นในศักยภาพ ของเด็กเชื่อวาดนตรีพัฒนาเด็กๆไดและที่สําคัญ คือ การคํานึงถึงความแตกตางระหวางบุคคลนอกจากนั้นทุกครั้งกอนที่จะจัดประสบการณกิจกรรมดนตรีตามแนวออรฟชูคเวิรค ในแตละ ครั้ง ผูดําเนินการควรมีการตระเตรียมความพรอมทั้งในดานของสถานที่ บรรยากาศ ตลอดจนสื่อ อุปกรณที่หลากหลาย เครื่องดนตรีชนิดตางๆที่สอดคลองกับเนื้อหาของกิจกรรม ทั้งนี้เพื่อใหการดําเนิน กิจกรรมเปนไปอยางราบรื่น และบรรลุตามจุดประสงคที่ตั้งไวออรฟเนนใหเด็กไดสัมผัสและมีปฏิสัมพันธกับสื่อมากที่สุด โดยเริ่มจากสื่อที่ใกลตัวขยายสูสื่อที่ ไกลออกไป ดังนั้น สื่อของออรฟจึงเริ่มจากรางกายของเด็กเอง ไปจนถึงสื่อสําเร็จรูปตางๆ เชน เครื่อง ดนตรี เพลง เพลงที่ออรฟใชในการจัดประสบการณดนตรีแนวออรฟชูคเวิรคนี้มีที่มาหลากหลาย ทั้งจาก เพลงที่ออรฟแตงเอง เพลงที่เด็กแตงขึ้น และเพลงจากนักแตงเพลงทานอื่น ที่สอดคลองกับหลักการของ ออรฟ เนื่องจากเพลงที่ออรฟแตงเองมีไมมากนักและวัตถุประสงคหลักของการเขียนเพลงของออรฟ คือ แตงเพียงเพื่อเปนแบบ (models) เพื่อการ improvisation สวนประกอบที่ออรฟใชแตงเพลงสําหรับเด็ก คือ 1) pentatonic mode (โนต 5ตัว ซึ่งมีความสัมพันธของเสียง โด เร มี ซอ ลา)
2) ostinato patterns และ borduns (แบบแผนของตัวโนตซ้ําๆที่เดินอยูตลอดทั้งเพลง) ซึ่งออรฟตั้งใจใหเด็กคิดขึ้นมาเอง เชน เพลง Day Is New Over ซึ่งเปนเพลงที่มีแบบแผนของเพลงชัดเจน บรรเลงงาย มีทํานองและเนื้อรอง แบงออกเปนทอนๆอยางแนนอน มีทอนลอและทอนรับ ซึ่งงายตอการเลียนแบบเพื่อนําไปคิดแตงทํานอง ตอดวยตนเอง ดังนั้น ในการจัดประสบการณดนตรีตามแนวออรฟชูคเวิรคนั้น สื่อจึงมีความหลากหลายและมี ความหมายเฉพาะตัว ทั้งสื่อที่ใกลตัว สิ่งที่ประดิษฐเอง และสื่อสําเร็จรูป ผูดําเนินการวิจัยจึงจําเปนตอง ศึกษาและเรียนรู วิธีการใช เปาหมายของสื่อแตละชนิด เพื่อนํามาใชใหสอดคลองกับกิจกรรมเพื่อพัฒนา ผูเรียนใหบรรลุตามเปาหมายที่วางไว้
สรุปวีดีโอ
เด็กจะเรียนรู้พื้นฐานจาก สี ขนาด รูปทรง ความกว้างความยาว จำนวน การสอนเด็กอนุบาลจะต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไปไม่ต้องรีบ เราจำเป็นต้องปูพื้อฐานให้แน่ก่อนเมื่อเด็กมีฐานที่มั่นคงการไปต่อในด้านคณิตศาสตร์นั้นก็ง่ายและไปได้เร็ว
การเรียนคณิตศาสตร์ให้มีประสิทธิภาพเรียนให้ได้ดีและสนุกนั้นต้องผ่านการเล่นโดยเด็กสามารถเริ่มเรียนรู้คณิตศาสตร์ได้ตั้งแต่ 1 ขวบ เด็กสามารถเรียนรู้ได้จำได้แต่ความเข้าใจจะเพิ่มขึ้นตามอายุ คณิตศาสตร์นี้ไม่ได้มีเพียงแค่ตัวเลข 1-10 เท่านั้น แต่ยังมีสี ขนาด รูปทรง ความกว้างความยาว นี้คือจุดเริ่มต้นของคณิตศาสตร์สำหรับเด็กเล็กๆ เด็กนั้นจะจดจำสัญลักษณ์ได้ว่าสัญลักษณ์แบบนี้คือเลขนี้แบบนี้คือเลขนั้นนะแต่เด็กจะไม่รู้ความหมาย เด็กแต่ละคนนั้นจะไม่เหมือนกันมีความสนใจต่างกัน บางคนสนใจวิชาการบางคนสนใจ ในการทำกิจกรรม ดังนั้นกิจกรรมจะต้องมีความสนุกและเข้ากับเด็กได้ในทุกรูปแบบ ผู้ปกครองก็มีส่วนสำคัญในการต่อยอด การสอนเราจะต้องคอยถามเด็กเพื่อกระตุ้นให้เด็กได้ใช้ความคิด
ทักษะที่ได้รับในวันนี้
- ทักษะการวางแผนว่าควรใช้ไม้ขนาดเท่าไหร่จึงจะได้รูป หรือรูปทรงที่ต้องการ
- ทักษะการวางแผนว่าควรทำอย่างไรจึงจะทำให้ไม้แต่ละชิ้นยึด หรือเชื่อมติดกัน คำตอบคือใช้ดินน้ำมัน ในการยึดนั้นเอง
- ทักษะการคาดคะเน ในการต่อไม้แต่ละชิ้น
- ทักษะความแม่นยำในการวางโครงสร้าง
- ทักษะการฟังและจับใจความจากสิ่งที่อาจารย์สั่ง
- ทักษะและไหวพริบในการทำ
- ทักษะรู้จักการแก้ปัญหาเมื่อรูปทรงผิดพลาด
- ทักษะการออกแบบ
- ทักษะการนำไปประยุกต์ใช้ในการสอน
การนำไปประยุกต์ใช้
1.จากการเรียนรู้ในวันนี้ทำให้รู้ว่าการทำรูปทรงต่างๆเป็นไร อีกทั้งยังสามารถ นำกิจกรรมที่ได้ทำวันนี้ ไปจัดกิจกรรมให้กับเด็กปฐมวัยได้อีกด้วย เพื่อสงเสริมให้เด็กได้พัฒนาการเรียนรู้ในส่วนต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงให้เด็กรู้จักรูปทรงต่างๆอย่างถูกต้องอีกด้วย
2.สามารถนำไปเป็นสื่อการเรียนการสอนเด็กปฐมวัยได้ คือ นำไปเป็นสื่อด้านวิชาคณิตศาสตร์ โดยสอนให้เด็กรู้จักรูปเรขาคณิตอย่างถูกต้อง อีกทั้งยังทำให้เด็กแยกคำว่าว่ารูป กับรูปทรงออกอีกด้วย
เทคนิคการสอน
1.สอนโดยเกริ่นนำก่อน การเข้ากิจกรรม
2.หากิจกรรมที่ส่งผลให้เกิดกระบวนการคิดในเชิงคณิตศาสตร์
3.บรรยายพร้อมทำกิจกรรม
4.สอดแทรกเรื่องคุณธรรมไปในบทเรียน
5.ให้นักศึกษานำเสนอความรู้ที่ค้นหามา
6.ถามตอบ อย่างมีเหตุผล
7ใต้องหาคำตอบที่ถูกต้องและชัดเจนเท่านั้น
ประเมินผล
อาจารย์มีความกระตือรือร้น ขยันมาสอนครบทุกคาบโดยไม่บ่น ชอบหากิจกรรมมาให้ทำ เพื่อเสริมเสริมกระบวนการคิดอย่างถูกวิธีเชงคณิตศาสตร์นั้นเอง คอยถามตอบกับนักศึกษา เพื่อหาคำตอบที่ถูกต้อง เปิดโอกาสให้ถามตอบได้ตลอดเวลา โดยมีการอธิบายเสริมและสรุปบทความที่เรียนทุกครั้งหลังการสอน